วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การเกิดภูเขาไฟ

การเกิดภูเขาไฟ





โดยทั่วไปแล้วการเกิดภูเขาไฟประมาณ 95 % เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกมาเกยกันหรือที่เรียกตาม ศัพท์ทางวิชาการว่า subduction zone เปลือกโลกของเราเป็นชั้นหินที่มีความแข็ง มีความหนาประมาณ 40-60 กิโลเมตร


ผิวโลกมีลักษณะเป็นแผ่น ไม่ได้รวมเป็นเนื้อเดียวกันตลอดทั้งโลก เปลือกโลกถูกแบ่งออกตามลักษณะทางภูมิศาสตร์ได้เป็น 2 ประเภท คือ
1.Oceanic plate คือ แผ่นเปลือกโลกที่อยู่ใต้มหาสมุทร(อันนี้คือพื้นดินที่อยู่ใต้ทะเลเลยน่ะ เซิจ Google earth ดูได้)
2.Continental plate คือ แผ่นทวีป ซึ่งปรากฏอยู่ตามส่วนที่เป็นพื้นดิน(ที่เราๆ เหยียบกันนี่แหล่ะครับ)


ดังนั้น เมื่อได้รับความร้อนจากแก่นโลกก็จะทำให้แผ่นโลกเกิดการเคลื่อนที่ อยู่ตลอดเวลาโดยกะประมาณว่าแผ่นโลกของเราจะมีการเคลื่อนที่ประมาณ 10 เซนติเมตรต่อปี และเมื่อแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นเคลื่อนที่ชนกัน( convergent plate boundaries) ก็จะทำให้แผ่นโลกแผ่นหนึ่งมุด ลงใต้แผ่นโลกอีกแผ่นหนึ่ง(โดยส่วนใหญ่ Oceanic plate จะมุดน่ะครับเพราะมันหนักกว่า จะมีที่เดียวคือใต้หวันที่ Continental plate มุด Oceanic Plate ครับ)
แผ่นที่มุดต่ำลงจะเข้าสู่ชั้นเปลือกโลกที่มีความร้อนสูงดังนั้นเกิดเป็น พลังงานความร้อนที่พยายามดันตัวออกมาสู่ภายนอก ลักษณะของการเกยกันของแผ่นเปลือกโลกนี้เองที่เราเรียกว่า subduction zone ภูเขาไฟมักจะเกิดตามแนว subduction zoneนี้








ส่วนอีก 5 % ของการเกิดเป็นภูเขาไฟระเบิด จะไม่เกิดตามแนวรอยแยกของแผ่นเปลือก โลกแต่จะเกิดในพื้นที่ช่วงกลางแผ่นเปลือกโลก ตรงที่มี Hotspot ปรากฏการณ์เช่นนี้ จะเกิดโดยมีการสะสมของ Magma จำนวนมากใต้แผ่นเปลือกโลกเมื่อมีจำนวน Magma จำนวนมาก ก็จะเกิดแรงดันจำนวนมหาศาลทำให้ Magma ไหลท่วมออกมาจนสามารถทำให้แผ่น เปลือกโลกขยับได้ นักธรณีเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Mantle plume อย่างเช่นการเกิดภูเขาไฟในหมู่เกาะฮาวาย










1 ความคิดเห็น:

  1. เนื้อหาดีเข้าใจง่าย มีภาพประกอบด้วยเข้าใจง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ

    ตอบลบ